@@@@@ เล่นนักวิจารณ์กันดีกว่า วิจารณ์ซ้อนวิจารณ์เพื่อตรวจสอบนักวิจารณ์บ้าง @@@@@

เนื้อความ : แว่บไปแว่บมาในพันธ์ทิพย์หลายเดือนแล้ว เห็นนักวิจารณ์ทะเลาะกับคนทำงานในแวดวงศิลปะแถวๆ
นี้ก็บ่อยครั้ง เลยอยากถามความเห็นของเพื่อนฝูงทั้งหลายในห้องนี้บ้างว่า คุณคิดอย่างไรกับนัก
วิจารณ์ทุกวันนี้ โดยจะขอเริ่มที่นักวิจารณ์หนังก่อนเป็นกลุ่มแรก

ก่อนจะตอบนะครับ ขอชี้แจงนิดนึงว่าการวิจารณ์ไม่ใช่งานขยะ เพราะฉะนั้น อย่าตอบแบบเท่ห์ๆ
แต่ไม่มีประเด็น อย่างเช่น "นักวิจารณ์คือพวกไม่มีปัญญาสร้างหนัง" หรือ "แน่จริงทำไมนักวิ
จารณ์ไม่มาสร้างหนังเอง" ผมว่าคนในเฉลิมไทยเก่งๆ กันทั้งนั้น และประเด็นแบบนี้ต่ำกว่า
มาตรฐานของพวกเราเกินไป

แฮ่ม แล้วก็บรรดานักวิจารณ์ที่แอบมาแวะเวียนในนี้ ขอนะครับว่าอย่าพยายาม defend ตัวเอง
โดยเปลี่ยนชื่อมาตอบ รู้นะครับว่ามีใครแอบมาเล่นบ้าง ถ้าคุณทำงานวิจารณ์หนังของคนอื่นได้
คุณควรจะแฟร์พอที่จะฟังคนอื่นวิจารณ์งานคุณด้วย - โดยเฉพาะแถวๆ จุดประกายน่ะ ขอนะครับ
อย่าพึ่งแจม - พยายามใจเย็นๆ และฟังบ้างว่าคนอื่นเขาคิดกับคุณอย่างไร

เริ่มตรงที่คนนี้ดีกว่า นันทขว้าง สิรสุนทร มีคนบอกว่าเขาคือนักวิจารณ์ที่ hot และเจ๋งที่สุดในยุคนี้
นันทขว้างเองก็บอกไว้ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดว่าอย่าพูดว่าเขาไม่เก่ง เขามีงานประจำในจุดประกาย
และในพักหลังๆ ก็มีคิวไปพูดที่นั่นที่นี่เรื่อยๆ

คำถามคือคุณคิดอย่างไรกับวิธีวิจารณ์แบบนันทขว้าง คุณชอบมั้ย คุณคิดว่าวิธีวิจารณ์แบบนี้
มีจุดเด่นและจุดด้อยอย่างไรบ้าง
จากคุณ : เอ้ - [30 ก.ย. 2541 02:34:45]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : :-X

ไม่มีอะไรมากกว่านี้
โดยคุณ : _draco - [30 ก.ย. 2541 02:57:40]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เอ่อ คือว่าคือ....
ไม่รู้จักนันทขว้างนะค่ะ
โดยคุณ : Sai - [30 ก.ย. 2541 07:53:55]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เอ่อ...นึกไม่ออกคับ ขนมโมจิก้อนยักษ์มันอุดปากอยู่
โดยคุณ : jetboat - [30 ก.ย. 2541 08:10:28]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ให้ 7/10 ถ้าลดความเลี่ยนลงให้น้อยๆหน่อยก็จะดี...
โดยคุณ : gallery@thaimail.com (นัยนะ) - [30 ก.ย. 2541 08:50:52]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : นันทขว้าง ใช้ได้ในเรื่องของการใช้ความรู้สึกวัด เอาความรู้สึกเข้าไปจับ แต่ในเรื่องของทฤษฏี ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งเริ่มเรียนรู้ และที่สำคัญเขาปกป้องตัวเองมากไป รักตัวเองมากไป ทำให้เขาชื่นชมตัวเอง จนเกินเลย
นันทขว้างเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนที่จะทำงานประเภทนี้ เขาโตเร็วไปนิดหนึ่ง วุฒิภาวะยังไม่เติบโต ถ้าค่อยเป็นค่อยไปก้าวย่างอย่างมั่นคง เขาจะเป็นนักวิจารณืที่ดี
โดยคุณ : ลอร่า อิงกัลล์ ไวเดอร์ - [30 ก.ย. 2541 09:11:00]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : แล้วคุณ "นรา" ล่ะคะ
โดยคุณ : SKY - [30 ก.ย. 2541 10:03:11]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : อู๊ด... ตามมาอ่านงะ... อิอิ
โดยคุณ : Lisztian - [30 ก.ย. 2541 11:14:22]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : นันทขว้าง ค่อนข้างเป็นคนที่ใช้ความรู้สึกส่วนตัวตัดสินสิ่งต่างๆได้ดี
แต่บ่อยครั้งครับที่เค้าพยายามหลอกตัวเองและพรรคพวก
ยิ่งงานไหนที่เป็นเพื่อนกับเค้า มักจะได้รับคำชมสูงอย่างน่าเกลียด
ถ้าไม่ลำเอียงในการวิจารณ์บ้างผมก็คิดว่าเค้าใช้ได้นะ
โดยคุณ : M - [30 ก.ย. 2541 11:16:53]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : นักวิจารณ์ใช้ "ความรู้สึกส่วนตัว" เข้ามาเกี่ยวข้องกับงานวิจารณ์ไม่น้อย
เราเอง จะวิจารณ์นักวิจารณ์ก็เลี่ยงเจ้าความฯ นี่ไม่ได้
ปัญหาก็คือ กับนักวิจารณ์คนนี้ มีความรู้สึกว่า "ความรู้สึกส่วนตัว" ของเรากับเขา
ไม่ค่อยจะตรงกันเสียที
เพราะฉะนั้นเวลาเขาพยายามใช้เหตุผลหรือทฤษฎีต่าง ๆ นานามาอธิบายความฯ นี้
เราเลยมักรู้สึกว่าบางทีเขาก็ข้าง ๆ คู ๆ อยู่บ่อย ๆ เหมือนกัน
แต่เราว่าเขาดีอยู่ตรงที่เขา "พยายาม" นี่แหละ
ดีกว่าพวกที่ข้าง ๆ คู ๆ แล้วยังไม่พยายามเป็นไหน ๆ
อันนี้ว่ากันด้วยความรู้สึกส่วนตัวแท้ ๆ แต่พยายามตอบให้เข้าประเด็นคุณเอ้น่ะ
พอใช้ได้บ้างไหมคะ
โดยคุณ : Eeyore - [30 ก.ย. 2541 12:09:59]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ไม่รู้จักคุณ นันทขว้าง..
แต่ก้อมานึกๆ ดูว่า.. ไม่ว่าใคร.. เวลาจะวิจารณ์ ใคร..
ใช้ ความรู้สึกของตัวเองทั้งนั้นอ่ะค่ะ..

เท่าเนี่ยะ.. แหะ แหะ.. เข้ามาแซว ขื่อคน..

โดยคุณ : นันทเขวี้ยง(ออกไปไกลๆ) (น้องพรผู้น่ารัก) - [30 ก.ย. 2541 13:10:18]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ช่วงนี้ ได้แต่อ่านงานวิจารณ์หนัง ละคร หรือแม้กระทั้งรายการทีวี จากคุณนันทขว้างทั้งหมด เพราะอ่านแต่กรุงเทพธุรกิจ หลังๆ ไม่ได้อ่านแมกกาซีนที่เกี่ยวกับหนังเลยมาเป็นเวลานานแล้ว จากเท่าที่อ่านมาเห็นด้วยว่า คุณนันทขว้างใช้ความรู้สึกส่วนตัวในการตีความ ประกอบทฤษฎีทั้งเกี่ยวกับภาพยนต์บ้าง ทฤษฎีศิลป์บ้าง อ่านแล้วก็พอจะคล้อยตาม พอจะให้ความเข้าใจในการดูหนังมีมากขึ้นนิดหน่อยในจุดที่มองข้าม ประเภท detail ต่างๆ แต่ถ้าโดยรวมหรือประเด็นหลักไม่ค่อยให้ทรรศนะที่แตกต่างจากนักวิจารณ์อื่นทั้งไทยและเทศ คือยังไม่รู้สึกว่าจะกล้าวิจารณ์อย่างชัดเจน อาจเป็นเพราะหลายๆ เหตุผล ก็ไม่ได้ว่าอะไร อ้อ! เคยคุยกับเพื่อน เค้าบอกว่า งานเขียนเค้าคล้าย นรา จริงแค่ไหน ลองวิจารณ์คุณนราเป็นรายต่อไปสิ
โดยคุณ : ขวัญใจ - [30 ก.ย. 2541 13:50:50]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : นราชอบโจวซิงฉือค่ะ
โดยคุณ : Pyg - [30 ก.ย. 2541 16:06:49]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ชอบ นรา อ.กิตติศักดิ์ อารี แท่นคำ นันทขว้างOK.
แต่เบื่อ ขุนทองฯ
โดยคุณ : -zzz- - [30 ก.ย. 2541 18:17:10]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : นันทขว้างนับว่าเป็นนักวิจารณ์ที่ดีที่สุดคนหนึ่ง
แม้คุณจะบอกว่าเขาไม่มีความรู้พอก็ตาม
แต่ผมก็ยังนับว่าเขามีความรู้มากกว่านักวิจารณ์ในหนังสือหนัง
เช่น Entertain
และที่สำคัญที่สุดคือ เขาได้ให้อะไรกับคนอ่าน ให้ข้อคิด
อย่างน้อยก็ดีกว่าการมาวิจารณ์แต่ความงามทางศิลปะอย่างเดียว
โดยคุณ : 001 - [30 ก.ย. 2541 18:58:24]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : นันทขว้างนับว่าเป็นนักวิจารณ์ที่ดีที่สุดคนหนึ่ง
แม้คุณจะบอกว่าเขาไม่มีความรู้พอก็ตาม
แต่ผมก็ยังนับว่าเขามีความรู้มากกว่านักวิจารณ์ในหนังสือหนัง
เช่น Entertain
และที่สำคัญที่สุดคือ เขาได้ให้อะไรกับคนอ่าน ให้ข้อคิด
อย่างน้อยก็ดีกว่าการมาวิจารณ์แต่ความงามทางศิลปะอย่างเดียว
โดยคุณ : 001 - [30 ก.ย. 2541 19:00:06]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เห็นด้วยกับคุณ Eeyoreนะ ในเรื่องการใช้ความรู้สึกส่วนตัวและถ้าจะว่ากัน
จริงๆแล้วไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ต้องใช้ความรู้สึกแบบที่ว่านี่แหละหรือการวิจารณ์ต้องเป็นกลางมากที่สุดอันนี้
ไม่รู้นะแต่คิดว่านักวิจารณ์แต่ละคนย่อมมีสไตล์เป็นของตนเอง อย่างคุณนันทขว้างก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ถึงแม้จะใช้ความรู้สึกในงานเยอะ แต่นี่แหละที่ชอบและคิดว่าคนอ่านก็คงมีวิจารณญาณ พอเพียงที่จะคิดเองต่อได้ ไม่รู้สิ แต่ในฐานะเป็นผู้บริโภคสื่อ เสพหนังคนหนึ่ง(ไม่ใช่คนในวงการหรือคนเรียนหนังชัวร์ๆ)คิดว่าน่าจะมองในแง่ดีไว้นะ เพราะโดยส่วนตัวก็ติดตามนักวิจารณ์หลายคนอยู่เหมือนกัน อ.กิตติศักดิ์,คุณนรา...และสิ่งที่คิดว่าได้..จากบทวิจราณ์เหล่านั้นก็คือมุมมองของแต่ละคนนะ
สำหรับกระทู้นี้อ่านข้อความข้างต้นรู้สึกจะแง่ลบมากกว่าบวก แต่จะลองบอกข้อดีบ้าง
อย่างที่บอกข้างต้นว่าชอบในความรู้สึกส่วนตัวนี่แหละส่วนเรื่องพวกพ้องนี่ไม่เคยรู้นะ แต่เคยอคติในบทวิจารณ์ละครนักศึกษาที่เราไปดูรู้สึกว่าห่วยแต่คุณนันทขว้างยังเขียนข้อดีให้เห็น ถ้าคิดในอีกแง่คิดว่าความคาดหวังของละครนักศึกษากับมืออาชีพย่อมต่างกันมั๊ง การให้กำลังใจก็ไม่ใช่เรื่องแปลกกับค่าเหนื่อยที่สมควรได้รับ ก็คงเหมือนกับที่คุณเอ้พูดถึงอาจารย์คนหนึ่งนะ
จึงคิดว่าคุณนันทขว้างเป็นคนที่เปิดกว้างดีคนหนึ่งมีความคิดและเข้าใจที่จะพูด
อีกอย่างที่ทำให้ต่างจากคนอื่นคิดว่าบทวิจารณ์กระชับดี (แต่พักหลังมักจบดื้อๆนะ) แต่น่าจะเป็นเพราะลักษณะของสื่อที่เป็นหนังสือพิมพ์รายวันดังนั้นกลุ่มผู้บริดภคย่อมกว้างแต่ให้ข้อมูลที่มีความรู้ค่อยๆให้ผู้อ่านทั่วๆไปเรียนรู้ได้ไม่ยัดเยียดแต่ถ้าเราอยากอ่านเพิ่มก็หาอ่านจากหนังสือเล่มอื่นอีกก็ได้ อ่านมาจนถึงตอนนี้ก็ไม่ปฏิเสธว่าเป็นแฟนคอลัมณ์ของคุณนันทขว้างชัวร์ ดังนั้นที่แสดงความคิดเห็นมาไม่ได้ต้องการแก้ตัวแทนแต่ต้องการบอกเหตุผลที่ชอบเพราะเราถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน สรุปได้ว่าสไตล์งานของเขาจะพ่วงสิ่งที่เกิดกับชีวิตจริงๆด้วยแต่มีสมองและคมดี
สำหรับอ.กิตติศักดิ์ ชอบมากเหมือนกัน แต่อยากฟังวิจารณ์คูณนรามากกว่านะ
ป.ล.
ขอบคุณคุณเอ้ที่ตั้งกระทู้นี้แสดงว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่เปิดใจดีและอยากให้มีคนที่มีความคิดที่เป็นกลางแบบนี้อีกหลายๆคนแต่เท่าที่ดูคนในนี้เก่งๆทั้งนั้น
เราเป็นน้องใหม่นะ
แล้ววันหลังจะเขียนมาอีก
โดยคุณ : Raygun - [30 ก.ย. 2541 19:00:20]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ขอโทษที่ส่งยาวเกินไป (ไม่เคยส่ง)
ไม่คิดว่าข้อความจะหายและไม่มี
การตัดคำให้ ขอโทษจริงๆ
โดยคุณ : Raygun - [30 ก.ย. 2541 19:14:52]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เราเป็นคนหนึ่งที่ได้อ่านบทวิจารณ์หนังหลายๆเรื่องจาก
ปลายปากกาของคุณนันทขว้าง ซึ่งก็เป็นการติดตาม
แบบมิได้ตั้งใจ เพราะอ่านกรุงเทพธุรกิจบ่อยกว่าหนัง
สือพิมพ์ฉบับอื่น

ไม่ได้เป็นผู้อยู่ในวงการนักวิจารณ์อย่างแน่นอน เป็น
เพียงคนอ่านและดูหนังตาดำๆธรรมดาคนหนึ่ง อดจะ
เข้าร่วมแสดงความเห็นเสียไม่ได้ แต่มิได้ต้องการปกป้อง
หรือโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนะ นิยมคุณเอ้ที่ตั้งกระทู้นี้
ขึ้นมาด้วยซ้ำไป

เท่าที่อ่านงานของคุณนันทขว้างอยู่เนืองๆ เห็นว่ามัก
จะใส่ "ตัวตน" ลงไปในงานเสมอๆ อันเป็นของคู่กับการ
วิจารณ์ในทุกแขนง ไม่แต่เฉพาะเรื่องหนังที่ถูกหยิบยก
ขึ้นมาเป็นประเด็นในครั้งนี้ การวิจารณ์ที่ไร้ "ตัวตน"
จะทำให้งานนั้นขาดชีวิตชีวา แต่การสอดแทรก อ้างอิง
ทฤษฎีแบบผิดๆถูกๆก็ไม่สมควรให้อภัยเช่นเดียวกัน

ในส่วนตัวเราไม่ถนัดทฤษฎีเกี่ยวกับหนัง เพราะชั่วโมง
บินการดูหนังยังถือว่าต่ำกว่าพวกท่านทั้งหลายมาก
ย่อมจะใช้เพียงสามัญสำนึกพื้นๆ ในการขอออกความ
เห็นด้วยคนในครั้งนี้ หลายเรื่องเราอ่านงานของคุณ
นันทขว้างและดูหนังเรื่องนั้นด้วยความเข้าใจมากขึ้น
อาจกล่าวได้ว่างานวิจารณ์หนังมีส่วนเสริมให้คนดู
ดูหนัง "เป็น"

ไม่รู้ว่าออกความเห็นมาแบบนี้จะเข้าทาง-เข้าประเด็น
ที่คุณเอ้ต้องการหรือไม่นะ อย่างไรก็ตาม เราไม่อาจ
ปฏิเสธได้ว่า งานวิจารณ์หนังของคุณนันทขว้างจุด
ประกายความคิดให้กับคนอ่านด้วยเหมือนกัน
เราไม่ขอออกความเห็นเกี่ยวกับว่าเขาจะดังหรือบอกว่า
ตัวเองเก่งยังไงก็แล้วแต่ เพราะประเด็นนั้นอยู่นอกเหนือ
ขอบเขตการรับรู้ของเราไปแล้ว


โดยคุณ : เอด้า แมคแกรธ - [30 ก.ย. 2541 22:00:20]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ไม่รู้จักคนนี้ แต่ปรบมือให้คุณเอ้ กล้าหาญมาก
โดยคุณ : เหมินฝัน ผู้ไม่ยอมแพ้ - [1 ต.ค. 2541 00:22:11]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : การวิจารณ์ถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งนะ
ยังไงก็ต้องมีหลักมีความรู้ในการวิจารณ์
เพราะคนทำงานสร้างงานเขาสร้างงานด้วยใจไง
คุณจะเอาใจตัดสิพวกเขาไม่ได้..
ไม่งั้นจะไม่มีอะไรเป็นกลางเลย..
คนสร้างงานบางคนถึงกับท้อไปเลยกับการวิจารณ์ของเขา
หมายถึงนันทขว้าง..
มันก็ไม่ใช่จะมีกฏอะไรตายตัวนักหรอก
สำหรับการวิจารณ์แต่มันก็ต้องมีเสาไว้ยึดบ้าง
และเสาในที่นี้ก็ต้องไม่เกิดจากตัวคุณด้วย..

สำหรับคุณนรา..เราชืนชมคุณ
ในฐานะนักวิจารณ์ที่เป็นกลางคนนึง..
หรือใครว่าไง..
โดยคุณ : เสือโคร่ง - [1 ต.ค. 2541 02:26:43]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ผมอ่านกรุงเทพธุรกิจ อ่าน "จุดประกาย"
แน่นอนว่าต้องได้อ่านคำวิจารณ์ของคุณนันทขว้างมากมาย

แรกๆ ก็ชอบเหมือนกันครับ
หลังๆ ก็เฉยๆ (คงจะชิน)
บางทีอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ตามประสาคนไม่รู้ศัพท์เทคนิกทางภาพยนตร์

แต่หลายๆ ครั้งที่ได้อ่านงานวิจารณ์ของเขา ก็รู้สึกดี
(บางทีไม่น่าเรียกว่าเป็นงานวิจารณ์ เหมือนพูดถึงจากอารมณ์ของตนเองมากกว่า)

แต่ไม่ชอบที่บางทีเค้าจะบอกเรื่องย่อของหนัง ช่วงที่เป็น Climax!!
โดยเฉพาะเวลาอ่านงานวิจารณ์หนังที่ผมยังไม่เคยดู และอยากจะดู
โดยคุณ : Oakyman - [1 ต.ค. 2541 02:27:20]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เราชอบงานคุณประชา
ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้อ่าน
เขาเอาหนังเรื่องเดิมมาเล่าในมุมมองใหม่ได้สนุก
โดยคุณ : แฟนพี่ฝาง - [1 ต.ค. 2541 02:45:41]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ...สำหรับคุณนันทขว้าง เมื่อก่อนจะชื่นชมมาก เพราะเป็นคนดูหนังคอเดียวกัน
บางเรื่องที่หาดูยาก และคนไม่ค่อยรู้จัก ปรากฏว่า อ้าว..แกดูเหมือนกันหรือเนี่ย
และชอบเหมือนกันด้วย
...มีมุมมองที่แปลกและสร้างสรรดี เขียนวิจารณ์ได้สนุก ชวนอ่าน นั่นเป็นส่วนที่ชอบนะครับ

...บางส่วนที่ไม่ชอบ ก็คือ งานเขียนบางชิ้นแกก็เอาอารมณ์พาไปเหมือนกัน แล้ว
เอาเหตุผลมาใส่ทีหลัง พอไม่ให้น่าเกลียดแบบข้างๆคูๆ
...อีกอย่างเกี่ยวกับเรื่องหนัง คือ ชอบที่จะหาเหตุผลว่าหนังเรื่องนี้ให้อะไรกับคนดู?
หนังเรื่องนี้บอกอะไรกับเราหรือ? หนังเรื่องนี้ตอบโจทย์ของตัวหนังอย่างไร? คือบางที
แกก็พยายามหาสาระและแง่คิดจากหนังมากเกินไป จนบางทีผมก็อยากจะตะโกนบอก
คุณนันทขว้างเหมือนกันว่า หนังเรื่องนี้ก็ให้ความมันส์ยังไงล่ะ(โว้ย) แค่นั้นแหละทีผู้กำกับ
เค้าอยากให้ตนดู เพราะผมเชื่อว่าหนังอะไรก็ตามถ้าทำให้คนดูรู้สึกพอใจและมีความสุขได้
นั่นก็ถือว่าเป็นหนังดีสำหรับคนนั้นได้แล้ว โดยเฉพาะเด็กๆ ถ้าหนังเรื่อง the lost world
สามารถทำให้เด็กๆสนใจเรื่องของไดโนเสาร์ ในมุมมองมุมมองใหม่ๆมากขึ้น หรือ ID4,
Armageddon สามารถทำให้เด็กสร้างจินตนาการดีๆขึ้นมาได้ นั่นก็เป็นหนังดีสำหรับ
พวกเขาเหมือนกัน เพราะบางทีรู้สึกว่าแกจะมี bias กับหนังที่ใช้ FX มากๆ จนมีอยู่ทีหนึ่ง
ถึงกับหลุดเปรียบเทียบ godzilla กับหนัง indy เลยว่าหนังเรื่องไหนให้อะไรกับคนดูมากกว่า?
ถ้าหนังเรื่องไหนไม่อยู่ในแนวที่แกชอบ ความเป็นกลางก็จะลดลงตามส่วน
...เอ แต่ว่านี่ก็ คือ นิยามของนักวิจารณ์หรือเปล่าที่ "ชอบก็บอกชอบ ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ"
ถ้าคุณชอบหนังอย่างนี้ คุณก็ไปหานักวิจารณ์คนอื่นสิ

...อีกอันนึงใกล้ๆนี้เอง ที่เขียนวิจารณ์หนังเรื่อง big night แกเขียนเหมือนกับว่าแกไป
สัมภาษณ์ผู้กำกับมาเองเลย ตีความ symbolic ต่างๆมากจนเกินงาม โดยเฉพาะเรื่อง
การให้ตำแหน่งแสงไฟในฉาก (คือใช้สำนวนประมาณว่า "...ดูแล้วก็รู้เลยว่าผู้กำกับจงใจที่จะ
set ไฟเพื่อเล่นกับตัวละคร...") ผมยังนั่งนึกเลยนี่แกคิดมากเกินไปหรือเปล่า? เพราะถ้าแปลมา
หรือมีที่มาจากที่อื่น ก็ควรจะลงที่มาสักหน่อย คือดูจากที่เขียนแล้ว เหมือนจะเป็นแกคิดเองเขียนเอง
ถ้าเป็นเรื่องของความรู้สึก, ข้อคิด, อารมณ์ จังหวะ ฯลฯ ของหนัง อันนี้ผมว่าจะวิจารณ์ยังไงก็ได้
แต่ในเรื่องของเชิงเทคนิคก็ควรจะระวังหน่อย

...โดยรวมก็ยังชอบอยู่นะ ถ้ายังพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ ก็จะเป็นนักวิจารณ์รุ่นใหม่ที่น่าสนใจครับ
โดยคุณ : sungod - [1 ต.ค. 2541 05:22:45]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ไม่เคยอ่านงานเค้านะ
ตอนนี้อยากอ่านมากเลย
โดยคุณ : harnell - [1 ต.ค. 2541 06:22:30]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : หน้าที่ของนักวิจารณ์ไม่น่าจะใช่กรรมการตัดสินรางวัลหนัง แต่น่าจะเป็นการนำเสนอ มุมมอง และ ภาพรวมมากกว่า ส่วนเรื่องใครจะชอบไม่ชอบเรื่องไหน เป็นเรื่องของ ปัจเจก .....ฟังมาจาก 94.5 รายการ วิจารณ์หนังอะ่ (วันอาทิตย์)
โดยคุณ : ziper (ziper) - [1 ต.ค. 2541 19:50:15]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เหมือนคุณ sungod
ที่ว่าดูเหมือนจะพยายามค้นหาสาระจากหนังมากไป
และด่วนสรุปเอาเองดื้อๆก็บ่อย
บางครั้งต้องถามในใจว่า
เฮ้ย คิดมากไปเปล่า
เรื่องการตีความนี่
มันเป็นเรื่องของแต่ละคนนะ

สิ่งที่เป็นข้อดีก็คือ
เราชอบแนวการวิจารณ์แบบนี้แฮะ





โดยคุณ : beautiful alone - [1 ต.ค. 2541 20:09:41]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เห็นด้วยกะคุณ ziper นะครับ
ขึ้นอยู่ที่ประสบการณ์ของแต่ละคน
โดยคุณ : Good. - [1 ต.ค. 2541 22:20:12]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : นี่เป็นกระทู้หนึ่งที่มีคนตอบกันเข้ามามากและเราก็อยากตอบด้วยซึ่งปกติ จะไม่อยากตอบกระทู้ที่มีคนตอบมาก ๆ เลย ขี้เกียจรออ่านน่ะ แต่สำหรับกรณีนี้รู้สึกว่าใกล้ตัวมากเลย
เราเป็นคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ชิดกับวงการวิจารณืนี่พอสมควร และเราก็อยากบอกว่า ในเรื่องของการวิจารณ์นักวิจารณ์นั้นก็เป็นสิ่งที่ควรมี เพราะ การเป็นนักวิจารณ์ก็เป็นอาชีพหนึ่งที่จัดเป็นวิชาชีพ ที่ต้องใช้ทักษะ การฝึกฝน การหาข้อมูลและประเมินผลโดยตัวของผู้ประกอบวิชาชีพนั้น เราเคยชอบนันทขว้างมาก และเชื่อในคำวิจารณ์ของเขามาก ซึ่งในระยะแรก (ราว 3-4 ปีที่แล้ว) เราว่าคุณภาพการวิจารณ์ของนันทขว้าง แม้จะไม่มีประสบการณ์มากเท่าปัจจุบัน แต่มีสิ่งล้ำค่าที่ปัจจุบัน นันทขว้างแทบไม่มีแล้ว คือ ความ Sincerity ความจริงใจที่เขามีในงานวิจารณ์ของเขา เรารู้สึกว่าเราเติบโตมาในสายวิชาชีพของเรา พร้อม ๆ กับที่นันทขว้างเติบโตในสายวิชาชีพนักวิจารณ์ของเขา และเราสังเกตได้ว่า เมื่อนันทขว้างเติบโตขึ้นนั้น
1. นันทขว้างเริ่มมีความจริงใจกับงานลดน้อยลง เริ่มพยายามใช้ศัพท์เทคนิค-ทฤษฎีบาง ที่บางครั้งก็ดี แต่บางครั้งก็ไม่ถูกต้องเอาเสียเลย และบางครั้งก็ไม่จำเป็นเลยแต่ฟังดูสวยหรูลงในงานเพื่อให้ดูว่าตัวเองฉลาด
(เช่น คำว่า Diction ที่เคยเห็นนันทขว้างใช้บ่อยอยู่ระยะหนึ่ง
แต่เมื่อลองเทียบดูแล้ว นันทขว้างใช้คำนี้ในความหมายที่ต่างกัน โดยไม่สมเหตุสมผลหลายครั้ง- นันทขว้างเคยกล่าวว่าละครเรื่อง ศึกอสรพิษ จัดแสงแบบ Low Key เป็นเทคนิคของฟิล์มนัวร์ แต่จริง ๆ น่าจะแยก ฟิล์มนัวร์ออก เพราะการจัดแสงในละครเวที กับหนังต่างกัน และไม่มีวันที่ละครเวทีจะเป็นฟิล์มนัวร์ แต่ละครเวทีจัดแสงแบบ low key ได้)
2. เมื่อนันทขว้างรู้จักคนมากขึ้น นันทขว้างก็เริ่มมีระบบอุปถัมภ์เข้ามาก้าวก่ายในงาน ถ้าเป็นเพื่อน หรือเป็นพรรคพวก ก็จะวิจารณ์โดยใช้วิธี"แปรขี้เป็นทอง" ซึ่งเรารู้สึกได้จากงานนันทขว้างหลายครั้ง (เช่น กล่าวว่า ดังกมล ณ ป้อมเพชร เป็นผู้กำกับรุ่นใหม่ที่คาดหวังได้ที่สุด จากเรื่อง ศึกอสรพิษ เพราะถ้าใครได้ไปดูเรื่องนี้คงรู้ได้ว่า ผลงานการกำกับของ"ครู"เรื่องนี้ ไม่ได้ดีเด่น และ โชว์กึ๋น กว่าเรื่อง "ผู้หญิงกับบางสิ่งที่น่าชวนหัว" ของวารสารฯ ที่เล่นใกล้ ๆ กันเท่าไหร่เลย เรื่องที่เลือกก็ เกือบจะจัดเข้าคำว่า "คลิเช่" หรือที่ครูใหญ๋ (อ. สดใส พันธุมโกมล แปลคำนี้ว่า "เฝือ") ในเชิงการ Creative เราว่า เรื่อง เธอ-เขา-เรา-ผม ของ วารสารฯ เมื่อ 2 ปีก่อน ผลงานการกำกับของนักศึกษา มีค่าในเชิงCreative มากกว่าด้วยซ้ำ ตัวละครลายตัวในเรื่องศึกอสรพิษแสดงActing แบบ TV ช่อง7 ซึ่ง นันทขว้างว่าดีเหมาะกับละคร ซึ่งเราว่าไม่ใช่ เพราะนั่นเป็นการActing แบบขาดความจริง (truth) และความจริงใจ (sincery) ดังนั้น จึงทำให้ละครบางท่อนบางตอนกระโดด ดูไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าทำไมตัวละครจึงตัดสินใจอย่างนี้ เพราะมันขาดความพิถีพิถันในการกำกับในส่วนของรายละเอียดของการแสดงเพื่อเติมเต็มส่วนที่หายไป ไม่ออกมาเป็นบทพูด ด้วยการใช้การแสดงเติมส่วนเหล่านั้น ให้ละครทั้งหมด กลืนกัน ดูแล้วประทับใจได้, ละครเรื่อง ศึกอสรพิษ จัดแสงพลาดหลายตำแหน่ง เนื่องจาก คัทซึระ คัง ผู้ออกแบบแสง ออกแบบไว้อย่างหนึ่ง แต่มีบางคนสั่งให้เปลี่ยน เพราะมองเห็นภาพของละครไปคนละทาง และเพิ่งแก้ไฟเมื่อยามดึกของคืนวันก่อนแสดง โฟกัสแสงหลายตำแหน่งพลาดทำให้ หน้าตัวละครมืด แต่นันทขว้างที่รู้จักกันกับ ดังกมล เขียนวิจารณ์ว่าที่ไฟมืด มองไม่เห็นหน้าตัวละครนั้นเพราะผู้กำกับจงใจให้เป็นแบบฟิล์มนัวร์ และชมว่าเป็นจุดที่ดีจุดหนึ่งของละครเรื่องนี้ )
3. เมื่อคนรู้จักนันทขว้างมากขึ้น นันทขว้างก็ "เห็น" ตัวเองว่าตัวเองเป็นคนสำคัญมากขึ้น เมื่อนันทขว้างปรากฏตัวที่ใด จะต้องมีคนมาห้อมล้อม หรือไม่นันทขว้างก็ต้องไปพูดคุยกับผู้กำกับ หรือกับคนอื่น ๆ นันทขว้างเริ่มทำตัว"ใหญ่"ขึ้น คิดเสมอว่าทุกคนจะต้องรู้จักตัวเอง
(เช่น เราเคยไปดูละครรอบนึง ที่รอบนั้น มี พี่แดง (กิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน หรือ ทิวลิป หรือ เอนไซโคพีเดียภาพยนตร์) ไปดู และ นันทขว้าง สิรสุนทรไปดู
พี่แดงจะนั่งเงียบหลบมุม จนกว่าที่เราจะรู้ว่าพี่แดงมาก็เมื่อละครเลิก และพี่แดงเดินออกนั่นแหละ แต่นันทขว้างน่ะ เหยียบเข้าโรงละครก็..ฮือ ฮา...
นี่เราก็ยกตัวอย่างให้ฟังกันเพียงคร่าว ๆ เฉพาะที่ตัวเองอยู่ใกล้ชิดกับสถานการณ์นั้น ทั้ง ๆ ที่เชื่อไหม เมื่อก่อน เราเคยเชื่อแทบทุกสิ่งที่นันทขว้างพูด และตัดเก็บคำวิจารณ์ของนันทขว้างไว้อ่านทบทวนเหมือนเป็นตำรา แต่เมื่อเราโตขึ้น เรียนรู้มากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น เราก็ได้รู้จักนันทขว้างคนใหม่ที่เปลี่ยนไปจากเดิม
โดยคุณ : boxboxbox@hotmail.com - [2 ต.ค. 2541 00:28:36]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : พี่เค้าฮ็อตจริงๆนะเนี่ย
ถึงนันทขว้างจะถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมาย
แต่ก็น่าดีใจที่มีคนสนใจงานเขามากขนาดนี้
ส่วนเรื่องที่เขาให้สัมภาษณ์ในมติชนนั้น
เรารู้สึกว่าเขาตกเป็นเหยื่อ
ถึงใครจะบอกว่านันทขว้างชอบพูดจาแรงๆ แต่เราว่าเขาก็ไม่โง่
ที่จะมาพูดจาแบบนั้นในมติชน
ให้เสียตัวหรอก
เพราะทุกคนก็รู้กันดีอยู่ว่า
มติชนสุดสัปดาห์ทำมาหากินกับเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง
เป็นประจำอยู่แล้ว
เราไม่ใช่แฟนนันทขว้าง
อ่านบ้าง ไม่อ่านบ้าง
โดยคุณ : แฟนพี่ฝาง - [2 ต.ค. 2541 01:03:07]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ผมขอเห็นด้วยกับคุณ boxboxbox
เพราะเจอมาแล้วในสถานการ์ณคล้ายๆกัน
ในละครเรื่อง What ? ม. กรุงเทพ ฯ
http://welcome.to/er
โดยคุณ : e_r_@thaimail.com (Er) - [2 ต.ค. 2541 09:51:14]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ไม่เคยชอบนันทขว้างเลย
อีโก้เยอะ เหมือนคนอื่นโง่ไปหมด
งานเขียนพิกลๆมานานแล้ว เหมือนจะเป็นรุ่นใหม่ไฟแรงที่ทำให้รุ่นใหม่ไฟแรงฉลาดๆดีๆเสียหายไปด้วย
ความสามารถในด้านทฤษฎีภาพยนตร์อ่อนหัด รู้จักศัพท์อะไรใหม่ีๆมาก็รีบนำมาใช้ สงสัยกำลังทำพจนานุกรมศัพท์ภาพยนตร์อยู่
ป่านนี้ถึงตัวข.ไข่หรือยังไม่รู้ ?
ตอนนี้เข้าไปมั่ววงการโน้นวงการนี้ ทำตัวเป็นศาสดา ชี้ผิดชี้ถูกไปหมด
คนอ่านเขาคิดเป็นครับ อย่าลำพอง พอเริ่มดังก็เริ่มมีอคติเข้ามา
อีกสักปีสองปี ถ้ารู้จักคนซัก 10 คน งานของ 10 คนนั้นคงดีเลิศประเสริญศรี
เลิกเป็นนักวิจารณ์เถอะครับ
โดยคุณ : นันทเขวี้ยง - [2 ต.ค. 2541 15:45:15]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ไม่เคยชอบนันทขว้างเลย
อีโก้เยอะ เหมือนคนอื่นโง่ไปหมด
งานเขียนพิกลๆมานานแล้ว เหมือนจะเป็นรุ่นใหม่ไฟแรงที่ทำให้รุ่นใหม่ไฟแรงฉลาดๆดีๆเสียหายไปด้วย
ความสามารถในด้านทฤษฎีภาพยนตร์อ่อนหัด รู้จักศัพท์อะไรใหม่ีๆมาก็รีบนำมาใช้ สงสัยกำลังทำพจนานุกรมศัพท์ภาพยนตร์อยู่
ป่านนี้ถึงตัวข.ไข่หรือยังไม่รู้ ?
ตอนนี้เข้าไปมั่ววงการโน้นวงการนี้ ทำตัวเป็นศาสดา ชี้ผิดชี้ถูกไปหมด
คนอ่านเขาคิดเป็นครับ อย่าลำพอง พอเริ่มดังก็เริ่มมีอคติเข้ามา
อีกสักปีสองปี ถ้ารู้จักคนซัก 10 คน งานของ 10 คนนั้นคงดีเลิศประเสริญศรี
เลิกเป็นนักวิจารณ์เถอะครับ
โดยคุณ : นันทเขวี้ยง - [2 ต.ค. 2541 15:45:32]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ขอบคุณในความเห็นของคุณ boxboxbox มากคะ
ที่ทำให้เราโตขึ้นเหมือนกันเพราะอดีตเรา
ก็เชื่อแทบทุกสิ่ง
(อาจเพราะไม่ได้อยู่ในวงการและไม่มั่นใจพอ)
ชอบกระทู้นี้จัง
ยังไงอยากให้ลองพูดถึงคุณสิทธิรักษ์ ตุลาพิทักษ์ด้วยคะ
โดยคุณ : raygun - [2 ต.ค. 2541 15:52:46]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : คุณสิทธิรักษ์ เป็นคนเงียบขรึม
เหมือนครูเฮี้ยบๆที่ถือไม้เรียวตลอดเวลา
ชอบกินข้าวมันไก่ประตูน้ำ ร้านเสื้อสีฟ้า
ส่วนนันทขว้างชอบกินข้าวมันไก่ร้านเสื้อสีฟ้า
ที่รู้เพราะเราขายบะหมี่อยู่แถวนั้น
เอ๊ะ ยังไงนะ จะให้พูดถึง
งานของคุณสิทธิรักษ์เหรอ
เออ ยังนึกไม่ออกเลย เดี๋ยวกลับมาใหม่
โดยคุณ : แฟนพี่ฝาง - [3 ต.ค. 2541 01:22:47]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เปลี่ยนคน
เปลี่ยนกระทู้ด้วยก็ดีครับ
เดี๋ยวตก
โดยคุณ : Oakyman - [3 ต.ค. 2541 02:53:19]


ชื่อ/email ของคุณ :
รายละเอียด :