..................(ตอนที่1-2)
  • ขอความคิดเห็นในการตั้งชื่อเรื่องให้หน่อยค่ะ....
    : ยุทธภูมิสีหน้าเคร่งขึ้นแต่ก็กลับเป็นปกติในเวลารวดเร็ว เพราะไม่เห็นประโยชน์อะไรกับการมาเสียเวลาตักเตือน อุรัมภ์ชื่นชมตัวเองจนไม่มองคนอื่น

    (1)....

    "ครึ้มอะไรมา นายรัมภ์"
    ชายหนุ่มในเสื้อสปอร์ตสีครีมตั้งข้อสังเกตแขกขาประจำพลางหันไปจัดหาเครื่องดื่มให้
    คนถูกทักฟังแล้วอมยิ้ม ทรุดนั่ง
    "บ้านชายโสดนี่เมื่อไหร่ ๆ ก็เป็นระเบียบนะ"
    เจ้าของบ้านหัวเราะออกมานิดหนึ่ง
    "ฉันนึกว่าแกจะไม่สังเกตซะอีก"
    "เปล่าหรอก มาบ่อยจนแทบเป็นบ้านตัวเองได้แล้ว กี่ที ๆ ก็เห็นเหมือนเดิม ข้าวของวางเข้าที่เข้าทาง...ไม่เหมือนที่บ้านว่ะ"
    "หนีเมียมาอีกแล้วสิ" เขาว่าเรื่อย ๆ "สายปรีดิ์ก็สวยจนมองไม่เบื่ออยู่แล้วนะ ฉันว่าแกเห็นอีหนูคนใหม่แจ๋วกว่าล่ะสิ ถึงมาบ่นเบื่อเมีย" คู่สนทนาว่าเหมือนรู้ทุน ด้วยเหตุที่คบกันมานาน
    เขารินเบียร์ให้อุรัมภ์เต็มปรี่ ส่วนตัวเองกลับมานั่ง
    "ไอ้ยุทธ...อิจฉาแกจังว่ะ รู้งี้ไม่รีบแต่งดีกว่า" อุรัมภ์ว่า
    "มีอะไรน่าอิจฉา"
    ยุทธภูมิกล่าวกลั้วหัวเราะ
    "แกมีอิสระไง จะควงใครนอนกับใครก็ไม่มีใครมาคอยตามหึง"
    "เหตุผลไม่มีน้ำหนักว่ะ ฉันรู้ว่าแกต้องการแค่ได้ควงหญิง จีบหญิง หรือหลอกเด็กไปวัน ๆ แก้เบื่อเท่านั้นเอง"
    "ใครว่า ผู้หญิงมาตื้อฉันเองต่างหาก" เขายิ้มด้วยความภูมิใจในรูปลักษณ์ตัวเองเต็มที่ "ก็ฉันมันดันเกิดมาโชคร้าย ทั้งหล่อทั้งรวยทั้งโก้ออกอย่างนี้"
    ยุทธภูมิทำท่าระอา นึกเวทนาเหยื่อทุกรายไป
    "แล้วเป็นไง ตอนนี้มีเนื้อชิ้นใหม่รึไง เห็นหน้าบานมาตั้งแต่เข้าประตู"
    ยุทธภูมิเดาเล่น แต่กลับเป็นการคาดคะเนที่ถูกต้อง
    "ใช่...มัณฑนากรที่มาทำหอประชุมใหม่ไง"
    "เหรอ รูปร่างหน้าตาขนาดนางสาวจักรวาลล่ะสิ" ยุทธภูมิว่ากึ่งประชด เพราะเห็นเพื่อครึ้มใจเต็มที่ "ใคร?"
    "แกยังไม่เคยเห็นหรอ?"
    ยุทธภูมิพยักหน้าแทนคำตอบ ผู้หญิงที่อุรัมภ์ยุ่งเกี่ยวด้วย ทุกคนล้วนมีรูปเป็นทรัพย์ เขานึกสมเพทหญิงเหล่านั้นที่ไม่เดียงสากับสันดานดิบของผู้ชาย อุรัมภ์มีภรรยาแล้ว แต่เหตุที่เป็นคนหน้าตาดี ฐานะดี คารมดี จึงดึงดูดความสนใจของผู้หญิงยุคนี้
    "แกจะเชื่อมั้ย ถ้าฉันจะบอกว่าหล่อนหน้าตาธรรมดาสิ้นดี"
    "มันก็คงประหลาดดี สำหรับแก"
    ยุทธภูมิว่าอย่างไม่ใส่ใจ
    "แกเข้ากรมฯ เช้ากว่าฉันทุกวัน คงได้เจอหล่อนเข้าซักวัน ฉันน่ะ...อยากจะไปเฝ้าทุกเช้าแต่ก็จนใจ"
    "ทำไม?" ยุทธภูมิแกล้งถามไปอย่างนั้น
    "ยายปรีดิ์คุมฉันแจ..."
    ยุทธภูมิยักไหล่นิด ๆ "ไม่มีเหตุผลอะไรนี่ ที่ฉันจะต้องไปดูหน้าหล่อน เดี๋ยวหล่อนจะเห็นกึ๋นแกซะก่อนเวลาอันสมควร ฉันนี่แหละจะเป็นคนลากไส้แกออกมา"
    "ไอ้บ้า แกสนใจผู้หญิงของฉันหน่อยสิวะ แกไม่สนใจผู้หญิงคนไหนในโลกนอกจากแม่แกเลยรึไง"

    ร้อยเอกยุทธภูมิไม่ตอบ เพียงยิ้มในนัยน์ตาสีเหล็ก เขาลุกไปที่เคาน์เตอร์ เห็นความผึ่งผายองอาจแฝงในท่าทางเรียบง่ายเย็นชา
    ยุทธภูมิหันหน้ากลับมา
    "ฉันสงสารปรีดิ์ สงสารผู้หญิงทุกคนของแก"
    อุรัมภ์หัวเราะ ไม่รู้สึกรู้สาอะไร มีความน่าดูไปหมดในทุกอริยาบทของหนุ่มเจ้าสำราญคนนี้
    ยุทธภูมิสีหน้าเคร่งขึ้น แต่ก็กลับเป็นปกติในเวลารวดเร็ว เพราะไม่เห็นประโยชน์อะไรกับการมาเสียเวลาตักเตือน อุรัมภ์ชื่นชมตัวเองจนไม่มองคนอื่น
    "ฉันคิดจะเปลี่ยนบรรยากาศ ผู้หญิงคนนี้เรียบง่ายแล้วก็เซ่อ เอ๊ย...ซื่อดีต่างหาก คงจะได้ค้นพบอะไรใหม่ในผู้หญิงสไตล์นี้"
    "แล้วพบรึยัง" เขาว่าคล้าย ๆ เยาะ
    "สำหรับหล่อน...ฉันเพิ่งเริ่มวางหมากเท่านั้นเอง"

    (2)....

    ชายหนุ่มจอดรถไว้ที่เดิม จากนั้นเข้ามาดูแลความเรียบร้อยภายในแผนก ทุกโต๊ะยังว่างเปล่า ไม่มีมาทำงานเช้าอย่างยุทธภูมิ เขาคิดจะไปนั่งดื่มกาแฟที่ห้องสโมสรเช่นทุกวัน จึงจัดแฟ้มงานที่จะตรวจไว้บนโต๊ะให้เรียบร้อย ก่อนเดินเรื่อย ๆ ไปห้องสโมสร
    ห้องสโมสรมีไว้เป็นสัดส่วนกว่าห้องอื่นทั้งหมด กรุกระจกตลอดแนวผนัง ช่วยให้สว่างและแลดูโล่งสะอาด ประกอบกับอยู่บนชั้นสูงสุด เห็นทิวทัศน์ข้างล่างชัดเจน หญิงสาวอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะมุมสุด หล่อนนั่นหันหลังให้เขา มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่คนทำงานที่นี้ เพราะไม่สวมเครื่องแบบอย่างข้าราชการ ยุทธภูมินั่งอยู่หลังหล่อนถัดมาสามโต๊ะ เห็นแผ่นหลังเล็กบางนั้นขยับเป็นบางครั้ง
    หล่อนคงรู้สึกตัวว่ามีคนมองอยู่ ครั้งหนึ่ง...ร่างนั้นจึงเหลียวมา แววตาหล่อนฉงนฉงาย ราวกับมีบางอย่างผุดขึ้นมาในใจเมื่อพบสายตายุทธภูมิที่แอบมองอยู่เข่นกัน
    เขาจำได้...
    "โอบกชใช่มั้ย"
    "ค่ะ แล้วอายุทธ...อายุทธอยู่ที่กรมนี้หรือคะ"
    ยุทธภูมิถือถ้วยกาแฟ ย้ายไปนั่งโต๊ะเดียวกันกับหล่อน
    "อาอยู่ที่กรมนี่ตั้งแต่จบนั่นแหละ เป็นไง...กชล่ะ จบตั้งแต่เมื่อไหร่"
    "เพิ่งจบค่ะ จบปุ๊บได้งานเลย"
    หญิงสาวหัวเราะ เห็นไรฟันเล็ก ๆ น่าดู ความสดใสอ่อนโลกอยู่ในกริยาโดยธรรมชาติ
    "อาไม่ได้เจอกชตั้งเกือบ ๆ หกปี"
    ยุทธภูมิเพลิดเพลินไปกับการสนทนา
    "ค่ะ หลังจากที่พิมพ์กาญจน์เสีย กชก็ไม่ได้ไปบ้านอายุทธอีก แล้ว...คุณย่าสบายดีหรือค่ะ"
    โอบกชถามถึงแม่ของเขา ซึ่งหล่อนนับเป็นย่า เพราะพิมพ์กาญจน์เพื่อนรับของหล่อนเป็นหลานย่าของแม่ยุทธภูมิ
    "ท่านเสียได้หลายปีแล้ว พวกพี่น้อยของอาก็แยกย้ายกันไปอยู่อาเลยขายบ้านหลังเก่า ตอนนี้ซื้อบ้านหลังใหม่อยู่แถว ๆ นี้เอง"
    ยุทธภูมิหยุดจิบกาแฟ ก่อนจะถามต่อ
    "แล้วกชมาทำอะไรที่นี่....."
    วูบหนึ่งเขานึกถึงผู้หญิงคนนั้นของอุรัมภ์ เขาภาวนาให้ไม่ใช่...
    "กชเป็นมัณฑนากร มาตกแต่งภายในหอประชุมใหม่หลังตึกนี่ไงค่ะ"
    หล่อนบอกแววตาสดใส นี่มันกริยาของเด็กแท้ ๆ เทียว ยุทธภูมิคิด
    "พวกทหารนี่อัธยาศัยดีนะคะ กชเพิ่มได้เพื่อนใหม่จากที่นี่"
    "เหรอ..."
    ยุทธภูมิกล่าวเพียงแค่นั้น
    "อายุทธรู้จักมั้ยคะ ร้อยเอกอุรัมภ์"
    หล่อนถามประกายตาซื่อ ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อครั้งวัยเยาว์
    โอบกชเป็นผู้หญิงคนนั้นของอุรัมภ์จริง ๆ หรือ ยุทธภูมิไม่อยากจะคิดต่อ.....
    "คะ อายุทธรู้จักเค้ามั้ยคะ"
    หล่อนทวงถามมาอีก ยุทธภูมิจึงตอบไปตามจริง "รู้จัก"
    ไม่ทันจะบอกอะไรต่อก็เห็นร่างสูงขาวในเครื่องแบบเขียวอ่อนกำลังเดินมาทางนี้
    "มาอยู่ที่นี่เองหรือครับ เมื่อกี้ผมไปหาคุณที่อาคารไม่พบ ไม่คิดว่าจะมาเจอที่นี่.....อ้าว.....ไอ้ยุทธ แกรู้จัก....."
    อุรัมภ์หน้าตื่นเมื่อเห็นทั้งสองคุยกันอยู่ก่อน
    "ใช่" ยุทธภูมิเก็บความรู้สึกบางอย่างไว้ในใจ
    แววตาของโอบกชสดใสขึ้นอย่างประหลาด ยุทธภูมิเห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะสงสารในชะตากรรมหล่อน หล่อนคงจะพอใจอุรัมภ์อยู่พอสมควร นี่ก็ไม่รู้ว่าทั้งสองรู้จักกันเป็นเวลาเท่าไรแล้ว ท่าทางรวยเสน่ห์ของอุรัมภ์ยิ่งที่ให้ยุทธภูมิปลงเป็นสองเท่า อุรัมภ์และโอบกชทักทายกันอยู่เป็นนาน คงแทบลืมว่ามีเขานั่งอยู่ด้วย...และคนที่แสดงออกนอกหน้ามากที่สุดว่าร่าเริงยินดี ก็เห็นจะเป็นโอบกชนนั่นเอง

    <<ยังมีต่อ ฉบับหน้า>>

    …………………………………………..

    Thanks,You are visitors number since 19/01/99


    : แสดงความคิดเห็น

    ชื่อ/email:
    ความคิดเห็น: