(2).... .........เราไม่ได้พูดอะไรกันมากนักเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก หลังจากที่เรากลับมาเรียนร่วมกันในโรงเรียน รอมเข้าใกล้และพบกับปูนบ่อยครั้งขึ้นจนใครๆ พากันมองตาขวาง เพราะอย่างที่บอกไว้ รอมเป็นคนหน้าตาดี อัธยาศัยดี ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องก็ชื่นชอบกันแทบทุกคน ปูนภูมิใจนักหนา ที่ปูนเป็นคนพิเศษของรอม ใครๆ ก็คาดไม่ถึง ว่าคนแบบรอมจะมาชอบปูน ปูนที่ไม่เคยมีใครมาตามจีบ ปูนที่ไม่เคยเรียนดีจนมีชื่อขึ้นบอร์ด ปูนคือนักเรียนคนหนึ่งที่เพื่อนๆ ให้ความเชื่อถือและชอบในอัธยาศัยเท่านั้น แล้ววันเวลาก็หมุนเวียนผ่านไปเรื่อยๆ ความรักของรอมและปูนทำท่าจะราบรื่นดีอยู่ แต่แล้วในวันนั้น วันที่ปูนไม่อยากหวนไปนึกถึงอีก วันนั้นปูนเห็นรอมนั่งคุยกับรุ่นน้องหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง เธอชื่อปานตา ปานตาเป็นรุ่นน้อง เป็นคนคล่องแคล่ว หน้าตาสะสวยคมคาย ทั้งฉลาดและเป็นสวัสดิการของชมรมฟุตบอล..ชมรมที่รอมเป็นประธานอยู่ สองคนนี้เคยข่าวฮือฮากันอยู่พักหนึ่งว่าเป็นแฟนกัน แต่ก็ซาไปเพราะรอมเป็นคนปฏิเสธอย่างออกหน้าออกตากับเพื่อนๆว่าไม่เคยคิดอะไรกับปานตาเกินความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ปูนก็เชื่อรอมนะ เพราะตามจริงแล้ว เพียงแค่คุยกันปูนไม่คิดอะไรหรอก แต่นี่ ปานตาคุยถึงเนื้อถึงตัว ปูนไม่ชอบเลย รอมเองก็ไม่เห็นว่าอะไรสักนิด ทั้งสองคนนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าปูนมองอยู่ บ่ายแล้ว แสงแดดเริ่มอ่อนแรงลง เงาทึบของต้นไม้พอบังแดดให้ปูนได้บ้าง ปูนมาแอบดูรอมซ้อมฟุตบอลเพราะสืบเนื่องจากความระแวงของเมื่อวาน หลบอยู่ตรงนี้ รอมคงมองไม่เห็นปูนแน่ แต่ปูนมองเห็นรอมชัดทีเดียว แวบหนึ่งของความรู้สึก ปูนเห็นตัวเองยืนโดดเดี่ยวท่ามกลางห้วงมืดสีดำ ไม่มีใครอยู่ข้างๆ ไม่มีรอม แต่ที่นั่น ตรงที่ห่างออกไป ปูนเห็นรอมกับปานตาอยู่ด้วยกัน ทั้งสองคนหนีห่างปูนไปเรื่อยๆ ความรู้สึกแบบนี้ ปูนกำลังหึงรอม ปูนเห็นรอมนั่งหลบร้อนอยู่ภายใต้ร่มเงาต้นก้ามปู ใบหน้าของรอมคงชุ่มโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อ แล้วข้างๆก็เป็นปานตา ปานตากำลังบิดผ้าขนหนูให้หมาดน้ำแล้วซับเหงื่อที่หน้าผากของรอม ตอนนั้นหน้าของปูนร้อนผ่าวไปหมด ความรู้สึกนึกคิดทั้งสติสัมปชัญญะพลอยสับสนวุ่นวาย ปูนไม่คิดอะไรอีกแล้ว นอกจากกลัวว่ารอมจะปล่อยใจ เผลอใจ ปูนจึงผลุนผลันเดินปราดเข้าไปหา แววตาสุกสกาวของรอมยังแสดงเจตนาบริสุทธิ์ ปูนคิด
ว่ารอมตีสีหน้าได้เก่งเกินกว่าที่คาดไว้นัก
ยิ่งพูดก็ดูเหมือนว่าน้ำที่เริ่มรื้นในดวงตาจะล้นไหลออกเร็วมากขึ้น ปูนกลั้นใจ แต่เสียงที่ดังออกมาก็สั่นจนสังเกตได้ "ถ้าจะเลิกยุ่งกับปูนเมื่อไหร่ บอกด้วยนะพี่รอม" ปูนตัดบทด้วยความรู้สึกมืดมน สมองมันตื้อไปหมด นึกอะไรได้ก็ออกไป ไม่ทันตรึกตรองว่าอะไรควรไม่ควรพูด แต่สิ่งที่ไม่ควร ไม่ควรอย่างยิ่งสำหรับครรลองความรักของปูน ปูนก็ได้กล่าวมันไปแล้ว จะเรียกกลับคืนก็ไม่ได้ แล้วถ้ารอมทำอย่างที่ปูนพูด ปูนจะทนได้หรือ ปูนทุ่มเทจิตใจทั้งหมดให้รอมด้วยความมั่นใจและความหวัง และหากปูนต้องเสียรอมไปเพราะความวู่วามของตนเอง มันจะเป็นความรู้สึกที่ร้าวรานเพียงใด ปูนหันหลังกลับ แล้วเดินลิ่วจากมา ความนึกคิดของปูนกำลังสับสนยากแก่การเข้าใจภายในเวลาชั่วครู่เดียว จากวันนั้นมาสองวัน ปูนก็ได้พบกับรอมอีก รอมอธิบายอย่างจริงจังว่าไม่ได้คิดอะไรกับปานตาอย่างแน่นอน แล้วยังดูปูนว่าคิดมากเกินไป เพราะปานตาเป็นคนคล่องแคล่ว เข้ากับคนงาย รอมจึงไม่ถือที่ช่วยซับเหงื่อให้ แล้วรอมก็ขอร้องให้ปูนเข้าใจ เชอะ ไม่มีทางหรอก เมื่อปูนไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบที่น่าพอใจ จากวันนั้นเป็นต้นมา ความรู้สึกของปูนก็บอกตัวเองว่า รอมห่างเหินไปเหลือเกิน เดิมเจอกันเคยหยอกเย้า แต่เดี๋ยวนี้รอมส่งยิ้มขื่นๆมาให้ สีหน้ารอมหมองลงไปจนสังเกตได้ ปูนเริ่มจะเข้าใจรอมขึ้นบ้างแล้ว แต่ไม่กล้าสารภาพกับรอม กลัว..ก็เพราะกลัวว่ารอมจะไม่ให้อภัย แล้วจะฝากคำพูดเจ็บๆมาให้ปูนเสียใจ คงเป็นเพราะความขลาดของปูนกระมัง โลกของปูนจึงกลายเป็นสีทึมๆจนถึงวันนี้ <<ยังมีต่อ ฉบับหน้า เป็นตอนจบค่ะ>> .. |
Thanks,You are visitors number since 30/07/98
comment by:
iam@thai.com
6 สิงหาคม 2541 14:46