(9)....
"คม.....วันนี้ช่วยไปทำธุระที่สนามบินแทนพี่ด้วยนะ"
"อะไรนะครับ พี่ทานตะวัน"
นิคมถาม ขณะรัวพิมพ์ดีดอยู่
"อ้าว.....ลืมหรือ ว่าวันนี้ใครจะกลับ"
ทานตะวันหัวหน้างานอมยิ้ม
"ก็คนที่ได้ทุนไปดูงานที่ฝรั่งเศสเมื่อปีที่แล้วไง แกล้งลืมหรือ"
เสียงรัวพิมพ์ดีดราวกับข้าวตอกแตกนั้นชะงักลง
"อะไรครับ....."
"มัทรีไง วันนี้กลับจากฝรั่งเศสแล้ว เธอไปรับที่สนามบินแทนพี่หน่อย พี่ไม่ว่าง ต้องไปตรวจงาน
ข้างนอก"
ทานตะวันคว้ากระเป๋ามาสะพายไหล่ "สิบเอ็ดโมงครึ่งนะ.....อย่าลืม เออ.....ดูทำหน้าเข้าสิ คม...
เธอดีใจหรือเสียใจกันแน่นะ"
".....ไม่ทราบสิครับ" นิคมตอบตามจริง
"ก่อนมัทรีจะไปนอก เธอสองคนก็ทำท่าจะไปด้วยกันดีแล้วไม่ใช่เหรอ.....แต่เธอก็เปลี่ยนใจไปจาก
เค้า เค้ารู้คงเสียใจนะ....."
ทานตะวันเดินมาหยุดที่โต๊ะนิคม ตั้งใจจะฝากคำพูดบางอย่างประสาคนจริงใจในการคบคน
"เชื่อพี่มั้ยล่ะ.....มัทรีเค้ายังไม่ลืมเธอหรอก เธอน่ะนะ.....กลับไปหาคนที่เค้าต้องการเธอดีกว่า
โอบกชน่ะเค้ามีเจ้าของแน่นอนอยู่แล้วนี่"
ทานตะวันตบบ่านิคมเบา ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป นิคมมองโต๊ะทำงานข้าง ๆ ที่ว่างอยู่ โอบ
กชออกไปข้างนอกอีกแล้วหรือ.....เขาอยากเห็นหน้าหล่อน เพื่อจะเติมความเข้มแข็งให้กับตัวเองอีกครั้ง
จริงสิ.....มัทรีกับเขาเคยเกือบจะลงเอยด้วยกันได้ แต่เนื่องจากมัทรีมีอันต้องไปต่างประเทศ
เสียก่อน สัมพันธ์อันลึกซึ้งนี้จึงถูกละเลย เมื่อกาลเวลาผ่านไป เขาหันมามีใจให้ผู้อื่น ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็น
ความผิดของใครไม่ใช่หรือ.....เจอกันในครั้งนี้ต่างฝ่ายจะทำหน้ายังไงต่อกัน ความจริงแล้วนิคมกำลัง
กลัวใจตัวเองมากที่สุด กลัวความนิ่งและเยือกเย็นของมัทรีอีกด้วย
ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดเวลา เมื่อนิคมไปรับมัทรีที่สนามบิน เขาเห็นหล่อนแล้ว หล่อนเองก็
เห็นเขาด้วยเหมือนกัน
มัทรีทักทายเขาเป็นภาษาฝรั่งเศส เขายิ้มกับบุคลิกที่มีเสน่ห์ของมัทรี หล่อนดีใจอยู่ไม่น้อยที่เขา
มารับ
มัทรีสวมกระโปรงสั้นสีดำเหนือเข่า เข้ากับถุงน่องดำ รูปร่างท้วมขึ้นเล็กน้อย
นิคมพาหล่อนออกจากสนามบินมารับประทานอาหารแถบชานเมือง บรรยากาศไม่จอแจนัก แต่
เสื้อนอกสีแดงจุดของหล่อนก็เรียกความสนใจจากผู้คนโดยเฉพาะผู้ชายได้มากกว่าคาด
"คนไทยนี่ยังไม่เปลี่ยนนะคะ โดยเฉพาะผู้ชาย"
หล่อนหัวเราะ
"ชาติไหนก็เหมือนกันละมัง.....เห็นของสวย ๆ งาม ๆ ก็อดจะมองกันไม่ได้
มัทรีพยักหน้ามียิ้มระบายอยู่เต็ม
"แล้วคมล่ะคะ.....ดิฉันว่าคุณเปลี่ยนไปเหมือนกัน ดูจากท่าทางคุณตื่น ๆ ชอบกล"
"คุณว่าผมตื่นอะไรล่ะ หือ" นิคมยิ้มเห็นเขี้ยวเก๋ไก๋ตรงที่มุมปาก "ผมตื่นคุณน่ะมัทรี คุณน่ารัก
ขึ้นเยอะ"
"ดิฉันพูดเล่นมากเหรอคะ"
"ก็ยังงั้น"
นิคมสั่งอาหารไทยหลายอย่างให้มัทรี หล่อนพออกพอใจกับรสชาติที่ร้างสิ้นไปเป็นเวลานาน
หล่อนดูน่ารัก.....แบบมีสาระมากกว่าแบบคนอ่อนโลกอย่างอีกคนหนึ่ง
"คุณรู้มั้ย ทีแรกผมนึกว่าคุณจะพาแฟนฝรั่งมาด้วยซะอีกนะ"
"เหรอคะ" มัทรียิ้มเก้อ ๆ "อยู่ที่โน่น ไม่คิดเรื่องอะไรเลยค่ะ คิดแต่เมืองไทย คิดถึงคนที่อยู่
เมืองไทย....."
หล่อนช้อนสายตาขึ้นสบ ความจริงจังมั่นคงยังมีบริบูรณ์อยู่ในผู้หญิงคนนี้ มีมากกว่าผู้ชายที่เรียก
ตัวเองว่าเป็นเพศของผู้เข้มแข็งเสียอีก นิคมไม่อยากสบตาหล่อนตรง ๆ
"คุณล่ะคะ คม เป็นอย่างไรบ้าง"
"ก็เป็นอย่างที่เห็น.....เรื่อย ๆ" เขาตักอาหารให้มัทรี
"เหรอคะ"
มัทรีหงอยเหงาลงชั่วขณะ เมื่อพบว่าคนเคยมีอะไรต่อกันไม่มีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบให้ชื่นใจเท่าที่ควร
ผู้ชายร่างสูงขาว อายุคงแก่กว่านิคมราวปีสองปี สวมเครื่องแบบทหารกำลังเดินมาทางโต๊ะที่มัทรี
และนิคมนั่ง มัทรีเห็นเขาตั้งแต่เขาลงมาจากรถแล้ว รถคันนั้นบอกฐานะของเจ้าของว่าเป็นคนที่มีฐานะคน
หนึ่ง
"คม คะ" มัทรีสะกิดนิคม เมื่อชายแปลกหน้ามาหยุดที่โต๊ะ
"คุณอุรัมภ์....." นิคมอุทานเสียมากกว่า
"ครับ.....ผมคุ้นหน้าคุณมากเลยเข้ามาทัก"
"ผมชื่อนิคม ทำงานที่เดียวกับโอบกชไงครับ ผมเห็นคุณบ่อย.....แต่ก็ในระยะไกล ๆ เท่านั้น วันนี้
ได้พบคุณใกล้ ๆ ถึงรู้ว่าคุณเป็นคนที่มีหน้าตาดีอย่างนี้นี่เอง"
"ขอบคุณครับ" น้ำเสียงกังวานน่าฟังถูกเปล่งออกมาเรื่อย ๆ "โชคดีที่พบคุณ.....ผมเลยไม่ต้องฝาก
ใครไปบอกคุณถึงเรื่อง....." อุรัมภ์ไม่ทันสังเกตว่ามีอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วย
นิคมลืมมารยาทไปชั่วขณะ เมื่อรู้ตัวจึงรีบเชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนนั่ง
"เรื่องของหอประชุมพลโทเอี่ยมที่หน่วยผมประมูลให้บริษัทของคุณเป็นคนตกแต่งภายใน.....คือว่า
หน่วยจัดพิธีเปิดตึกแล้วก็จะมีงานเลี้ยงในตอนค่ำน่ะครับ เชิญคนในบริษัทเอ็นเอทุกคนเลยนะครับ แล้ว
ทางหน่วยจะจัดส่งรายละเอียดและกำหนดการที่เป็นทางการไปทีหลัง" พูดธุระแล้วเขาจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่า
นิคมไม่ได้มาคนเดียว
อุรัมภ์จึงยิ้มน้อย ๆ ก้มศีรษะทักทายหล่อน นิคมจึงต้องแนะนำให้รู้จักตามธรรมเนียม
"นี่มัทรีเพื่อนในบริษัทของผมอีกคน เธอเพิ่งกลับจากฝรั่งเศสวันนี้นี่เอง"
"สวัสดีครับ" อุรัมภ์มองหล่อนได้เต็มตาเป็นครั้งแรก เกิดความพอใจอย่างช่วยได้ได้ประสาผู้ชาย
ไม่รู้จักอิ่มจักพอ ก็มัทรีสวยเด่นออกอย่างนี้ อุรัมภ์น่าจะมองหล่อนให้เต็มตาตั้งแต่แรก
"คุณมัทรีไปทำอะไรที่ฝรั่งเศสครับ"
อุรัมภ์แอบมองหล่อนทั่วตัว
"ดิฉันไปดูงานค่ะ โขคดีไปแค่ปีเดียว คิดถึงบ้านจะแย่" มัทรีหัวเราะ รู้ตัวว่าถูกมองและรู้ว่าการถูก
มองสายตาแบบนี้นั้นหมายความว่าอะไร
พอดีชายสูงวัยกว่าอุรัมภ์ที่มาด้วยกันเรียกตัวเขาไป ชายหนุ่มจึงขอตัวไปซะได้
เมื่ออุรัมภ์ไปแล้วจึงหันมาหามัทรี
".....คุณว่าเค้าเป็นยังไงบ้าง?"
"เป็นผู้ชายที่น่ากลัวนะคะ"
มัทรียักไหล่นิด ๆ นิคมถามต่อ
"ยังไง?"
"เป็นคนหล่อนะคะ"
"นี่เหรอ.....สิ่งที่คุณบอกว่ากลัว"
นิคมตักข้าวใส่จาน หลังจากชิมอาหารเบา ๆ มาหลายจานแล้ว คิดว่ามัทรีคงจะหิวเช่นกัน
"ขอบคุณค่ะ" หล่อนบอกเบาจัดจนเกือบกระซิบ "ท่าทางเป็นคนฉลาดมากนะคะ ทั้งรวย น่ากลัว
สำหรับผุ้หญิงเพราะเค้ามีทุกอย่างพร้อมผู้หญิงก็ต้องการเค้าเป็นธรรมดา ถ้าจะหลอกใครซักคนคงไม่ยาก"
"ผมรู้สึกอย่างที่คุณพูดเหมือนกัน"
".........."
<<ยังมีต่อ ฉบับหน้า>>
..
|
|