- ดวงตะวันคล้อยต่ำลงทุกที แสงแดดราความร้อนแรงลงมากแล้ว
เดือนส่องรวบแฟ้มเอกสารสองสามปึกบนโต๊ะเข้าด้วยกัน เป็นสัญญานว่าการงานของวันนี้ถึงเวลาสิ้นสุดลง
- ความหมายของการสิ้นสุด ไม่เพียงแค่สำหรับวันนี้ มันหมายถึงการสิ้นสุดโดยถาวร เพราะนี่เป็นวันสุดท้ายของการทำงานที่นี่ เดือนส่องตัดสินใจเขียนใบลาออกก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน แต่ก่อนหน้าที่จะเกิดการตัดสินใจ หล่อนใช้เวลาไตร่ตรองร่วมแรมเดือน หล่อนคิดเกี่ยวกับตัวเองและวันข้างหน้า วันข้างหน้าสำหรับหล่อนเพียงลำพัง
- เดือนส่องไม่ได้หนีอะไรบางอย่างอย่างที่คนอื่นคิด หล่อนเดาเอาเอง ว่าใครๆจะต้องคิดว่าหล่อนต้องการแยกตัวไปจากหนทางชีวิตของใครบางคน
- ใครจะคิดว่าอะไรๆจะเป็นไปได้เพียงนี้
แต่เดือนส่องคิด หล่อนสังหรณ์ถึงจุดๆนี้มาตลอด มันเหมือนหล่อนเตรียมการเอาไว้ก่อน แต่เปล่าเลย
หล่อนก็ยื้อยุดกับมันจนคิดว่าถึงที่สุดแล้ว จนต้องปล่อยให้เป็นไปอย่างที่ต้องเป็น ไม่ใช่แผนการซับซ้อนซ่อนปม เดือนส่องก็คิดว่าตัวเองไม่ใช่คนฉลาด หาไม่แล้ว
หล่อนคงลงมือทำอะไรบางอย่างลงไปเสียบ้าง ไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาเพียงนี้
- ธงไท เป็นคนเช่นไร ทำไมเดือนส่องจะไม่รู้
- ในทางกลับกัน มีอะไรที่ธงไทรู้บ้าง เกี่ยวกับ เดือนส่อง
- ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองดูเหมือนไร้ปัญหา เป็นแบบแผนชีวิตแบบที่ใครๆก็เป็นกันในสังคมยุคนี้ แต่ปัญหาในเรื่องของความสัมพันธ์ มักจะเป็นอะไรที่ก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว เดือนส่องไม่ได้คิดถึงมันอีกแล้ว
เพราะคิดมามากจนเกินพอ
- หย่ากันแล้ว
แยกกันแล้ว
- ทุกอย่างจบหมด อาจจะเป็นละครตอนอวสาน แต่เดือนส่องไม่ยอมต่อภาคสองอีกเป็นอันขาด
- ธงไทโทรศัพท์เข้ามาในตอนนี้ เดือนส่องรับสายอย่างรู้ล่วงหน้า
- เดือน
- เดือนพูดอยู่
- แวะไปกินอะไรด้วยกันก่อนดีไหม
- ยังไม่รู้สึกหิวเลยนี่ เดือนส่องไม่ได้โกหกหรอก
- อือ
เหรอ เขาหยุดไปครู่หนึ่ง งั้นให้พี่ไปส่งที่บ้านนะ
- ไว้วันหลังเถอะ
- จะมีวันไหนอีกล่ะ ก็เดี๋ยวเดือนว่าจะไปต่างจังหวัดหลายวัน นี่เดือนลาออกพี่ก็ไม่เจอได้บ่อยๆไม่ใช่เหรอ
- ไม่เจอบ่อยๆก็ดีแล้ว หล่อนบอกไปตรงตามสมองคิด ก็เอาไว้หลังจากกลับมาค่อยว่ากันใหม่ก็ได้ เดือนคงยังไม่หายไปจากโลกหรอก
- เดือนทำไม่ชอบพูดอย่างนี้ พี่พูดดีๆนะ
- อือ ก็เดือนไม่อยากไปกับพี่ เดี่ยวเดือนจะกลับแล้ว
- เพื่อนร่วมงานโต๊ะใกล้กันชักจะเหลือบๆมองมาทางหล่อน เขาคงได้ยินถ้อยคำต่างๆที่สนทนากัน เดือนส่องไม่อยากโยกโย้ หล่อนจึงรีบตัดบทเสีย
- แค่นี้นะ
- ก็ได้ แค่นี้ ปลายสายมีหางเสียงฉุนเฉียวขึ้นมาเหมือนกัน แต่หล่อนก็ใม่ใส่ใจอีกต่อไป หมดเวลาใส่ใจแล้ว
- เดือนส่องวางหูดังกริก
- ความจริงหล่อนก็รู้สึกดีอยู่นิดหน่อย ที่ธงไทตามง้องอนมาตลอด บางทีเดือนส่องอาจยังตกอยู่ภาวะพักฟื้นทางจิตใจ จึงไม่ยินดียินร้าย เย็นสนิทเหมือนภูเขาน้ำแข็งสุดขั้วโลก ราวกับไร้หัวใจ
- หล่อนเคยเชื่อในอำนาจแห่งความรัก แต่นั่นมันก็อาจเมื่อครั้งหล่อนยังเดียงสาต่อโลก ยิ่งล่วงเลยผ่านไปเท่าใด กลับเห็นแต่ความไม่เที่ยงแท้ ก็แน่ล่ะ
นั่นมันสัจธรรม เดือนส่องคิดในใจ
- ทางบ้านหล่อนยังไม่มีใครรู้ถึงแผนการลาออกจากงาน ถ้าหากรู้เข้าคงต้องเกิดเรื่องใหญ่ และหล่อนจะปล่อยให้ทางบ้านไม่รู้ต่อไปจนกว่าหล่อนจะกลับจากการพักผ่อน
- เดือนส่องเก็บของใช้ส่วนตัวลงกระเป๋าเดินทาง
สิ่งที่ไม่เคยขาดเวลาเดินทางไปต่างจังหวัดคือ สมุดบันทึก และหนังสือสองสามเล่ม
หล่อนหยิบขึ้นมาพลิกๆ ดูเล่น มีบทกลอน สลับๆไปกับข้อความสองสามย่อหน้า
เมื่อละสายตามองผ่าน ก็ซาบซึ้งถึงความเป็นไปของวันที่ผ่านมา หล่อนนึกสะท้อนใจ
และหัวใจก็คงสั่นสะเทือนไปตามถ้อยคำในสมุดไม่ต่างกัน น้ำตาจึงไหลร่วงลงเป็นสาย
- นึกๆดูแล้วธงไทก็เป็นคนดีใช้ได้อยู่เหมือนกัน
- คนส่วนใหญ่ก็บอกว่าเดือนส่องเป็นผู้หญิงที่โชคดีในเรื่องคู่ครอง ดูธงไทแน่วแน่และเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย เอาจริงเอาจังในการงาน แค่นี้ก็ดีถมไปแล้วสำหรับผู้ชายสมัยนี้
- เดือนส่องขัดแย้งกับตัวเองมาตลอด ใครก็ว่าเขาดี แต่ทำไมหล่อนจึงรู้สึกว่าฉันอยู่ร่วมกับคนดีๆอย่างธงไทต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ฉันไม่มีความสุข ทั้งที่ฉันก็ว่าเขาเป็นคนดีเหมือนกัน
- ธงไทเป็นคนรักความเป็นระเบียบ ตั้งแต่แต่งงานมาอยู่ร่วมห้องเดียวกัน ธงไทจัดระเบียบให้หมดทุกเรื่องตั้งแต่ตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ในห้องส่วนตัว วิธีการวางเข้าของให้เป็นหมวดหมู่ การล้างรถซึ่งต้องล้างหลังคาก่อนเพราะความสกปรกจะได้ไม่ลงมาเลอะตัวรถทีหลัง และโทรทัศน์ที่ฉายเฉพาะรายการที่เขาต้องการดู
- หล่อนเคยอยากสร้างความโรแมนติก ด้วยการหากิจกรรมเล็กน้อยๆทำร่วมกัน อาจจะเป็นเรื่องทำอาหาร ทำครัว หรือ จัดบ้าน แต่บ่อยครั้งที่เขาบอกว่าหล่อนทำอะไรได้ไม่ดีเท่าเขาทำ เช่น ห้องส่วนตัวที่เคยเป็นของเดือนส่อง เมื่อธงไทย้ายมาอยู่ร่วมกัน เขาก็แสดงออกถึงความเป็นคนมีระเบียบด้วยการแปลงโฉมห้องนั้นจนแทบไม่เหลือความเป็นเดือนส่องอยู่อีก เขาเคลื่อนย้ายข้าวของและจัดระเบียบตามที่เขาเห็นสมควร และออกกฎว่าต่อไปนี้หล่อนต้องวางของตรงนั้นตรงนี้ เพื่อความเรียบร้อย
- ความหมายของตัวตนแห่งคนชื่อเดือนส่องค่อยๆหมดไปตามกาลเวลา จุดเริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน จนถึงเรื่องที่ใหญ่ขึ้นมาอย่างวิธีการอยู่ร่วมกัน ความชอบที่แตกต่าง จากความขัดแย้งที่เสมือนเป็นแค่เรื่องลิ้นกับฟัน สั่งสมกลายเป็นหมอกควันหนาทึบในใจ อบอวลทุกวี่วันจนกระทั่งรบกวนจิตใจให้หม่นหมอง หมดสุข แล้วในวันหนึ่งเดือนส่องก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่กับธงไทเพราะอะไร?
- การเป็นคนดีนี่มันยากเสียจริง
- เดือนส่องนึกถึงแววตาของพ่อกับแม่ ประกายตาที่บ่งบอกถึงความภาคภูมิใจ ความสุข และความหวังว่าลูกสาวของฉันจะมีชีวิตคู่ที่โรจน์รุ่ง ลูกสาวที่ไม่เคยทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง ลูกสาวที่เข้าพิธีแต่งงานกับชายหนุ่มแสนดี งานแต่งงานอันสมเกียรติ และหนทางข้างหน้าจะลาดปูด้วยกลีบกุหลาบไปอีกชั่วชีวิต
- การที่อยู่ร่วมกับคนดีไม่ได้เป็นเพราะฉันเป็นคนไม่ดี เดือนส่องคิดอย่างนั้น
- หล่อนสับสนอยู่เงียบๆว่าตัวเองเป็นอะไรไปแล้ว ธงไทก็รักหล่อนดีอยู่ ให้ความสะดวกสบายและความมั่นคงทุกอย่างเท่าที่คนเป็นสามีพึงจะทำ แล้วทำไมหล่อนจึงไม่มีความสุขเท่าๆกับเมื่อยังรักกันใหม่ๆ ทำไมหล่อนจึงต้องแอบร้องไห้เสมอๆเวลาที่ขัดแย้งกัน หล่อนร้องไห้เพราะเป็นคนไม่ชอบความขัดแย้งอยู่เป็นทุนเดิม หรือร้องไห้เพราะถ้อยคำบาดใจและแข็งกร้าวจากธงไทกันแน่?
- รู้สึกว่าชักจะปล่อยให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่าน
- เดือนส่องปิดสมุดบันทึกก่อนจะซุกมันไว้ดังเดิมในกระเป๋าเดินทาง
|
|